เทคนิคถ่ายภาพโฆษณาแต่ละประเภทแบบมืออาชีพ
ภาพถ่ายเพื่อการโฆษณานั้นมีอยู่มากมายหลายชนิด ช่างภาพที่ถ่ายภาพโฆษณาจะทําการถ่ายภาพตามงานที่ได้ออกแบบไว้ เพื่อให้ภาพโฆษณานั้นๆ สามารถสื่อความหมายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
สิ่งสำคัญของการถ่ายภาพโฆษณา คือ การถ่ายภาพออกมาให้สื่อสารได้ โดยมีเทคนิคต่างๆ มาช่วยเสริม วันนี้เราเลยรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการถ่ายภาพโฆษณาประเภทต่างๆ พร้อมกับเทคนิคการถ่ายภาพ มาเป็นแนวทางสำหรับการตัดสินใจ
ภาพโฆษณาแต่ละประเภท และเทคนิคการถ่ายภาพ
ภาพโฆษณาแต่ละประเภท และเทคนิคการถ่ายภาพ
1. ภาพคนเหมือน (portrait)
เป็นการถ่ายภาพบุคคล ในลักษณะต่างๆ ภายในห้องภาพ หรือที่เรียกว่า สตูดิโอ (studio) ซะส่วนใหญ่ แต่บางภาพก็สามารถที่จะถ่ายนอกสถานที่ได้ เพียงแต่ว่าภาพคนเหมือนนี้ต้องการเน้นถึงอารมณ์ของผู้แสดงเสียมากกว่าองค์ประกอบอย่างอื่น
ส่วนมากภาพคนเหมือนนี้จะมีความสําคัญอยู่เพียงท่อนบนของตัวแสดง โดยเน้นถึงสีหน้าบนใบหน้าและการแสดงของท่าทางและมุมของใบหน้าให้กลมกลืนกับความรู้สึกหลักๆ ที่ต้องการจะสื่อในโฆษณา เช่น สงสัย ร้องไห้ ดีใจ หัวเราะ ชอบมาก เป็นห่วง เสียใจ ฯลฯ ซึ่งต้องบ่งชัดออกมา
ในการถ่ายภาพโฆษณานั้นนักแสดงหรือนายแบบ นางแบบจะต้องแสดงออกถึงอารมณ์เหล่านี้ให้ได้ในขณะที่กําลังบันทึกภาพ และบางครั้งในการถ่ายภาพ ผู้แสดงอาจจะไม่สามารถแสดงความรู้สึกได้ตามที่เราต้องการ โดยทั่วไปแล้วจะใช้วิธีการถ่ายภาพไว้หลายๆ ภาพเพื่อนํามาเลือกสรรอีกครั้ง
![ภาพ portrait](https://www.ideogram-design.com/wp-content/plugins/wp-fastest-cache-premium/pro/images/blank.gif)
![ภาพคน](https://www.ideogram-design.com/wp-content/plugins/wp-fastest-cache-premium/pro/images/blank.gif)
2. ภาพสินค้า (pack shot)
เป็นการถ่ายภาพตัวสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ (packaging) ของสินค้า ในการโฆษณาจะเรียกกันว่า แพคชอต หรือโปรดักส์ชอต (pack or product shot)
บรรจุภัณฑ์สินค้าในท้องตลาดมีมากมายหลายชนิด ทั้งที่เป็นกระดาษ พลาสติก แก้ว ผ้า เหล็ก ฯลฯ แต่ละชนิดมีทั้งมีคุณภาพดีและไม่มีคุณภาพ มีการบรรจุหีบห่อ (package) ที่สวยและไม่สวย มีรูปร่างต่างๆ กันไป
ดังนั้น จึงต้องมีการถ่ายภาพและนำภาพมาตกแต่งเพื่อให้ออกมาเป็นภาพสินค้าที่สมบูรณ์แบบ ดูน่าสนใจ ดึงดูดให้ซื้อได้
เทคนิคในการถ่ายภาพสินค้า คือ
2.1 ถ่ายภาพสินค้าต้องมีความชัดเจน สื่อความหมายได้ทันที โดยไม่ต้องมีการตีความ เมื่อดูแล้วสามารถบอกได้เลยว่าเป็นสินค้าอะไร
2.2 สินค้าในรูปจะต้องมีสัดส่วนถูกต้องตามความเป็นจริง
2.3 การถ่ายภาพสินค้าในมุมแปลกๆ จะช่วยให้ภาพน่าสนใจขึ้น แต่ต้องระวังไม่ให้ภาพออกมาบิดเบี้ยว หรือผิดไปจากความเป็นจริงมากเกินไป เพราะจะส่งผลต่อความเข้าใจของผู้บริโภค อาจเข้าใจผิดในตัวสินค้าได้
2.4 ในบางครั้งสินค้าอาจจะมีบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ได้สมบูรณ์ หรือเป๊ะตามความต้องการ ดังนั้นการแก้ไขหน้างานหรือการถ่ายภาพสำรองเผื่อไว้ตอนรีทัชภาพก็เป็นสิ่งจำเป็น
2.5แสงและเงา แน่นอนว่าการถ่ายภาพให้สวยแบบมืออาชีพนั้นต้องมีการจัดแสง จัดไฟ สินค้าบางอย่างเมื่อมีแสงสะท้อนไปที่ตัวสินค้าจะทำให้ดูสวยงาม แต่สินค้าบางอย่างอาจจะไม่เหมาะสม
![pack shot](https://www.ideogram-design.com/wp-content/plugins/wp-fastest-cache-premium/pro/images/blank.gif)
![ภาพสินค้า](https://www.ideogram-design.com/wp-content/plugins/wp-fastest-cache-premium/pro/images/blank.gif)
3. ภาพอาหาร (food shot)
การถ่ายโฆษณาอาหารนั้น หลักๆ จะเน้นให้เห็นความสด ความสวยงาม สีสัน ความน่ารับประทาน ในความเป็นจริง อาหารบางประเภทอาจจะดูธรรมดา แต่จุดประสงค์ของการถ่ายภาพโฆษณาคือ ทำอย่างไรให้ดูน่ารับประทาน
ดังนั้น ควรจะต้องมีการเตรียมสินค้าที่จะทําการถ่าย มีการจัดแต่งองค์ประกอบเพิ่มเติมเพื่อให้สื่อออกมาในเรื่องที่ต้องการ อย่างการเน้นความสดใหม่น่ารับประทาน ดูสะอาด
ยกตัวอย่าง การถ่ายโฆษณาเบียร์ เน้นความเย็นและฟอง ดังนั้นจะมีเทคนิคจัดฟองเบียร์ จะให้ไหลออกมานอกแก้วหรือพอดีขอบแก้ว แก้วใส่เบียร์ต้องดูแล้วเย็นไม่ใช่ลักษณะเหมือนกับแก้วเปียก มีหยดน้ำเกาะ เป็นความเย็นที่ไม่ใช่เกิดจากการใส่น้ำแข็ง
![food shot](https://www.ideogram-design.com/wp-content/plugins/wp-fastest-cache-premium/pro/images/blank.gif)
พวกอาหารร้อน เครื่องดื่มร้อน อาจจะมีควันหรือไม่มีก็ได้ ซึ่งจะใช้น้ำแข็งแห้งเข้าช่วย และถ้ามีควันฉากหลังก็ควรต้องมีสีเข้ม เพราะควันเป็นสีขาว แต่ถ้าในการถ่ายภาพการจัดองค์ประกอบเหล่านี้ยากเกินไป คงต้องใช้การรีทัชภาพเข้ามาช่วย
![ภาพอาหาร](https://www.ideogram-design.com/wp-content/plugins/wp-fastest-cache-premium/pro/images/blank.gif)
สําหรับการถ่ายภาพอาหารที่ปรุงแล้ว เช่น ขนมเค้ก แฮมเบอร์เกอร์ ข้าวผัด แกงต่างๆ เป็นต้น ต้องเป็นอาหารที่มีความสดและประกอบขึ้นใหม่เพื่อให้สดใหม่น่ารับประทาน จึงต้องเตรียมมาปรุงในสตูดิโอถ่ายภาพ เพื่อที่ปรุงเสร็จแล้วจะได้ถ่ายได้ทันที และอาหารยังดูสดน่ารับประทาน
ถ้าเป็นอาหารที่สามารถเตรียมไว้นาน ๆ เช่น แฮมเบอร์เกอร์ พาย ก็ควรมาอบที่สตูดิโอ เพื่อดูว่าสีสันจากการอบนั้นใช้ได้หรือสุกไปหรือไม่ เพราะเราจะไม่คํานึงถึงรสชาติของอาหารเลย แต่ทำอย่างไรก็ได้ให้ภาพออกมาดูสวยงามน่าทาน
องค์ประกอบอาหารในจานเป็นสิ่งสําคัญ ไม่ควรใส่สิ่งที่ดูแล้วว่ากินไม่ได้ลงไปในจาน โดยมากจะใช้ผักสดๆ ผลไม้สวยๆ หรือนํามาแกะสลัก การทากลีเซอร์รีนลงไปในอาหาร เพื่อให้ดูมันหรือผสมลงไปเพื่อให้ดูเหนียว เพราะถ้าใช้น้ำมันพืชจะไม่เกาะตัวและเกิดเป็นไข
![ภาพการปรุง](https://www.ideogram-design.com/wp-content/plugins/wp-fastest-cache-premium/pro/images/blank.gif)
หรือแม้แต่การถ่ายภาพแกงเผ็ดเราอาจจะใส่มะเขือทีหลังเพื่อให้มะเขือดูเขียวสด ซึ่งในความเป็นจริงเราคงต้องเคี่ยวให้มะเขือสุกจึงจะใช้ได้
ภาพผลไม้จะต้องดูว่า ต้องการให้เห็นหรือผิวของผลไม้ เพื่อแสดงความน่ากินอยู่ที่ตัวหรือเนื้อ ผลไม้ทั้งผลอาจดูน่ารับประทานมากกว่าผ่าให้เห็นเนื้อ เช่น แอปเปิ้ลอาจต้องวางทั้งผลและที่ปอกฝานประกอบกันไป เพียงแต่ขอให้ภาพออกมาดูสด น่ารับประทาน ซึ่งเป็นหัวใจของการถ่ายภาพ
![ภาพของสด](https://www.ideogram-design.com/wp-content/plugins/wp-fastest-cache-premium/pro/images/blank.gif)
4. ภาพเคลื่อนไหว (action)
การเคลื่อนไหวของคนหรือองค์ประกอบอื่นของภาพ เช่น รถแข่ง ถือว่าเป็นภาพเคลื่อนไหวทั้งสิ้น ช่างภาพจะเป็นผู้ “จับภาพ” (capture) ของคนหรือวัตถุ ในช่วงที่มีการเคลื่อนไหว (movement) โดยพยายามจับภาพเคลื่อนไหว (movement of action) ในช่วงที่ดีที่สุดเพื่อให้ได้ภาพที่ดูแล้วเคลื่อนไหวอย่างที่ต้องการ
![ภาพเคลื่อนไหว](https://www.ideogram-design.com/wp-content/plugins/wp-fastest-cache-premium/pro/images/blank.gif)
ภาพประเภทนี้จะใช้ประกอบโฆษณาในลักษณะเครื่องดื่มบํารุงกําลังเป็นส่วนใหญ่ นอกนั้นอาจเป็นเครื่องสําอางบางชนิด เช่น แชมพูสระผม การถ่ายโฆษณาแชมพูต้องการให้เห็นผมสลวยปัดไปมา เคลื่อนไหวอยู่บนศีรษะของตัวแสดงทําให้ดูสะอาดไม่พันกัน มักจะเป็นการถ่ายใกล้ (close up) ด้วย
หลักการถ่ายภาพเคลื่อนไหวก็คือ ภาพที่ออกมาแล้วจะต้องรู้สึกว่ามันเคลื่อนไหว ถ้าเป็นภาพโฆษณาเคลื่อนไหวต้องมีความสัมพันธ์สอดคล้องกันตามลักษณะของโฆษณาที่ต้องการสื่อสาร เช่น ถ้าเป็นโฆษณารถแข่งภาพเคลื่อนไหวก็ต้องดูแล้วรู้สึกว่าเร็วจี๋ สมกับเป็นรถแข่ง เป็นต้น
เทคนิคเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ในการถ่ายภาพโฆษณาจริง จะมีรายละเอียดมากมายที่ต้องแก้ไขกันเฉพาะหน้าหรือ ณ เวลานั้น ความเป็นมืออาชีพของทีมงานจะช่วยให้การถ่ายภาพโฆษณาเป็นไปอย่างราบรื่น และออกมาได้ตรงใจมากที่สุด
ideogram recommend
เรียนรู้วิธีการและขั้นตอนการถ่ายภาพ ได้ที่บทความ อยากทำภาพโฆษณาสินค้าแบบมืออาชีพ ต้องทำอย่างไร
สำหรับใครที่กำลังมองหาผู้ถ่ายภาพโฆษณา ออกแบบโฆษณา หรือแม้แต่การออกแบบโลโก้ แพคเกจจิ้ง ไปจนถึงทำการตลาดสำหรับแบรนด์ของตนเองหรือกำลังปรับปรุงธุรกิจ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงหรือยังขาดผู้ช่วย ไอดีลแกรมเราพร้อมไปด้วยทีมงานคุณภาพด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี พร้อมที่จะเป็นผู้ช่วยในการสร้างแบรนด์ของคุณให้ประสบความสำเร็จ
ออกแบบกับเราดียังไง
– เราสามารถช่วยคุณออกแบบและสร้างโฆษณาได้หลากหลายรูปแบบ ตามที่ต้องการ
– เรามีทีมงานออกแบบในการสร้างสรรค์ไอเดียไปพร้อมกับการทำความเข้าใจในแบรนด์ของคุณ เพื่อให้เกิดเป็นโฆษณาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแบรนด์ของคุณ
– เรามีทีมงานที่ช่วยแนะนำสำหรับผู้ที่มีสินค้าแต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง
– เราใช้ประสบการณ์ในการออกแบบกับแบรนด์ดังแบรนด์ใหญ่ มาเป็นแนวทางให้คุณได้
– มีประสบการณ์ในด้านการออกแบบมากกว่า 20 ปี ขั้นตอนการทำงานที่มีระบบระดับมืออาชีพ
– มีบริการที่หลากหลาย ช่วยต่อยอดในการส่งเสริมการขาย เช่น การออกแบบสื่อโฆษณาอื่นๆ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์
สามารถ เยี่ยมชมพอร์ต เพื่อดูผลงานเพิ่มเติม ได้ที่เมนูด้านล่าง หรือติดต่อสอบถาม, รับคำปรึกษาได้เลย ได้ทาง
email : hello@ideogram-design.com
โทร : 02-635-2991, 062-929-2826
Inbox facebook : m.me/IdeogrambkkDesign
แล้วอย่าลืมติดตามผลงาน เกร็ดความรู้ต่างๆ และบทความดีๆ ของเราผ่านเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของเรากันนะคะ Click
ดูบทความอื่นๆ เพิ่มเติม คลิก https://ideogram-design.com/blog
เครดิตภาพ : Pinterest
ขอบคุณแหล่งข้อมูล https://www.chonburi.spu.ac.th/
สรุป
การถ่ายภาพโฆษณาทั้ง 4 ประเภท มีเทคนิคที่ต่างกันไป คือ
1. ภาพคนเหมือน ต้องสื่อสารความรู้สึกหลักๆ ผ่านสีหน้าท่าทางให้ได้
2. ภาพสินค้า ต้องมีความชัดเจน สัดส่วนถูกต้องตามความเป็นจริง มุมแปลกๆ จะช่วยให้ภาพน่าสนใจขึ้น มีแสงและเงาที่ดี
3. ภาพอาหาร เน้นให้เห็นความสด ความ สวยงาม สีสัน ความน่ารับประทาน
4. ภาพเคลื่อนไหวภาพ ต้องรู้สึกเหมือนว่ามันเคลื่อนไหวได้จริงๆ