เรื่องที่ต้องรู้ก่อนออกแบบแพคเกจจิ้ง
ในการ ออกแบบแพคเกจจิ้ง หรือการออกแบบบรรจุภัณฑ์ แน่นอนว่า เราต้องการให้แพคเกจจิ้งสวย นั่นไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพราะแพคเกจจิ้งคือหน้าตาของสินค้าเป็นจุดแรกที่จะดึงดูดผู้บริโภค แต่! คำว่าสวย ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนมองอย่างนี้ว่าสวย แต่บางคนกลับรู้สึกเฉยๆ และมองแบบอื่นสวยกว่า
ซึ่งในงานออกแบบเอง คำนี้ถือว่า เป็นคำที่ Subjective หรือแต่ละคนเห็นไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลนั้นๆ ดังนั้นในการออกแบบแพคเกจจิ้ง คำว่าสวยคงไม่เพียงพอต้องคำนึงถึงองค์ประกอบอื่นๆ ด้วย เพื่อให้คำว่าสวยดูมีคุณค่ามากกว่านั้น เรามาดูกันว่า นอกจากสวยแล้ว องค์ประกอบของการออกแบบแพคเกจจิ้งที่ดีนั้น เป็นอย่างไร
ลักษณะของออกแบบแพคเกจจิ้งที่ดี
การเตรียมข้อมูลสำหรับออกแบบแพคเกจจิ้ง
ลักษณะของออกแบบแพคเกจจิ้งที่ดี
1. ตอบโจทย์ มันคืออะไร
โจทย์ในที่นี้ หมายถึง สินค้าคืออะไร ได้สื่อสารออกไปชัดเจนแล้วหรือยัง ดูแล้วรับรู้ได้ทันที เพราะว่าปกติสินค้ามักอยู่ในหีบห่อ แล้วแพคเกจจิ้งจะเป็นตัวบอกว่าสินค้าคืออะไร ดียังไง ทำไมต้องซื้อ
นอกจากบอกเรื่องสินค้าชัดเจนแล้ว จุดขายที่อยากบอกก็ต้องชัดเจนเช่นกันดังนั้น การออกแบบแพคเกจจิ้ง ให้ตอบโจทย์จะช่วยลดความสับสนในตัวสินค้าให้กับผู้บริโภคและง่ายต่อการตัดสินใจนั่นเอง
2. ทำไมต้องต่าง
ในสินค้าแต่ละประเภท ไม่ได้มีแค่เราขายอยู่เพียงแบรนด์เดียว แบรนด์ต้องมีคู่แข่งเสมอ โครงสร้างแพคเกจจิ้งก็เป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความโดดเด่นเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น รูปทรงใหม่ๆ แปลกๆ ยังไม่เคยมีมาก่อน (แต่ต้องใช้งานง่ายด้วยนะ) หรือถ้าโครงสร้างไม่สามารถทำให้โดดเด่นได้ การออกแบบแพคเกจจิ้ง คือคำตอบ
ideogram recommend
ใช้การออกแบบแพคเกจจิ้ง ให้โดดเด่นและแตกต่างเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคมาที่สินค้าของเราก่อน เพราะนั่นคือโอกาสในการสร้างยอดขายนั่นเอง
3. ดึงดูดได้อย่างไร
สร้างแรงดึงดูดด้วยภาพ เพียงแค่สินค้าเราโดดเด่นสะดุดตาเพียงอย่างเดียว ผู้บริโภคอาจจะแค่มองแล้วจากไป ดังนั้น ต้องสร้างแรงดึงดูดให้ซื้อ ถึงจะสำเร็จเกิดเป็นยอดขาย เช่น สินค้ากลุ่มอาหาร มีรูปอาหารโชว์อยู่บนแพคเกจจิ้ง ผู้บริโภครับรู้ว่าคือสินค้าอะไร
แต่จะดีกว่าหรือไม่ ถ้าเราใส่ใจในการหาภาพมาอยู่บนแพคเกจจิ้ง โดยภาพนั้นเป็นอาหารที่น่ากิน ดูน่าอร่อย ที่ไปกระตุ้นความอยากซื้อของผู้บริโภคคงจะดีไม่น้อย
4. คุณค่าที่คู่ควร
สร้างคุณค่า สินค้าบางชนิดกว่าจะถูกผลิตออกมาวางจำหน่ายนั้น มากมายหลายขั้นตอน กรรมวิธีการผลิตยิ่งมากเท่ากับต้นทุนมากตามไปด้วยเช่นกัน สินค้าบางอย่างจึงค่อนข้างมีราคา แต่กรรมวิธีต่างๆ ล้วนเป็นเรื่องราวเบื้องหลังที่ไม่สามารถมาเล่าให้ทุกคนรับรู้และเข้าใจได้หมด
ดังนั้น เราจึงต้องสร้างหน้าตาของสินค้า ให้เหมาะสมกับคุณค่าของสินค้านั้นๆ ผู้บริโภคจึงจะรับรู้ได้ถึงคุณค่าของสินค้า รู้สึกคุ้มค่าในการซื้อ ในขณะเดียวกัน สินค้าธรรมดาก็สามารถสร้างคุณค่าผ่านทางแพคเกจจิ้งได้เหมือนกัน ทั้งหมดนี้ล้วนต้องใช้การดีไซน์เข้ามาช่วย
การเตรียมข้อมูลสำหรับออกแบบแพคเกจจิ้ง
หลังจากที่เรารู้กันแล้วว่า แพคเกจจิ้งที่ดีมีลักษณะเป็นอย่างไร เรามาต่อกันที่การเตรียมตัว ก่อนการออกแบบแพคเกจจิ้งกัน เพราะข้อมูลต่างๆ ก็มีความสำคัญ ทั้งในงานออกแบบเอง และสำคัญต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคด้วย มาดูกันว่ามีข้อมูลอะไรบ้างที่ต้องเตรียม
1. รู้จักลูกค้า
สำรวจกลุ่มลูกค้าของสินค้าคุณสักนิด ว่าลูกค้าหลักหรือกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นใคร ช่วงอายุ ความชอบ ข้อมูลตรงนี้ถือว่าสำคัญ เพราะจะช่วยให้การออกแบบแพคเกจจิ้งตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายได้
ยกตัวอย่าง สินค้าสำหรับผู้สูงอายุ จะต้องมีขนาดตัวอักษรที่ใหญ่ อ่านง่าย หรือสินค้าที่มีความน่าเชื่อถือสไตล์ก็จะนิ่งๆ ดูจริงจังมากขึ้น เพื่อช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคได้อีกส่วนหนึ่ง เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้หน้าตาแพคเกจจิ้งออกมาต้องตาต้องใจ สะดุดตากลุ่มลูกค้าที่ตั้งไว้
2. ข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์
ข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์หรือสินค้าเป็นสิ่งสำคัญในการโปรโมทแบรนด์ของคุณสู่สายตาของลูกค้า เพราะมันคือภาพรวมที่ส่งผลต่อความรู้สึกของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์
ดังนั้น การออกแบบแพคเกจจิ้งก็ควรให้ความสำคัญ ใส่ใจในรายละเอียดของแบรนด์ สร้างตัวตนหรืออัตลักษณ์และดึงจุดเด่นของแบรนด์และตัวสินค้าออกมาให้ได้ จึงควรมีข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ ตัวตนของแบรนด์ ดังต่อไปนี้ให้ครบถ้วนกันเสียก่อน
สีหลักหรือเฉดสีที่เลือกใช้: โทนสี ชื่อสี โค้ดสี
ฟอนต์ ตัวอักษร: ชื่อฟอนต์ที่ต้องการ หรือขนาดของตัวอักษรในตำแหน่งต่างๆ ก็ควรระบุให้ชัดเจน
โลโก้ของแบรนด์: โลโก้ที่สื่อถึงธุรกิจหรือตัวสินค้า ซึ่งโลโก้ส่วนมากมักจะมีชื่อสินค้าอยู่ด้วย ผู้ประกอบการที่มีการจัดตั้งเป็นรูปแบบบริษัทบางคนก็ใช้โลโก้บริษัทเลยก็สามารถทำได้ แต่ทั้งนี้ต้องอย่าลืมว่าต้องสื่อถึงธุรกิจหรือตัวสินค้าด้วย
3. ข้อมูลบนแพคเกจจิ้ง
สินค้าแต่ละประเภท แต่ละแบรนด์ ย่อมมีข้อมูลบนแพคเกจจิ้งแตกต่างกันไป ดังนั้น เพื่อออกแบบแพคเกจจิ้งได้ถูกต้อง ตรงใจ สามารถใช้งานได้จริง การมีข้อมูลในส่วนนี้ไว้ครบถ้วนก่อนจึงสำคัญมาก ข้อมูลที่ระบุบนแพคเกจจิ้ง ได้แก่
ข้อความ: ชื่อสินค้า คำอธิบายสรรพคุณสั้นๆ ส่วนประกอบ วิธีใช้ ข้อควรระวัง วัน/เดือน/ปีที่ผลิตและหมดอายุ ที่อยู่ผู้ผลิต ตารางข้อมูลโภชนาการ เป็นต้น
รูปภาพ: ภาพพรีเซนเตอร์ ภาพส่วนประกอบ หรือภาพสินค้า ตัวผู้ประกอบการอาจจะเป็นผู้จัดเตรียมเอง หรือให้ผู้ออกแบบเป็นคนจัดหามาให้ก็ได้
เครื่องหมายที่จำเป็น: บาร์โค้ด เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายรับรองจากภาครัฐอาจจะต้องยื่นขอจดทะเบียน เช่น อย., เลขที่ใบรับจดแจ้งสำหรับสินค้าที่เป็นเครื่องสำอางค์ เป็นต้น
4. แบบที่ชอบ สไตล์ที่ใช่
รูปแบบแพคเกจจิ้ง: ผู้ประกอบการอาจติดต่อโรงงานผลิตเพื่อเลือกแบบไว้แล้ว เพื่อลดต้นทุนในการผลิต หรืออยากออกแบบรูปแบบแพคเกจจิ้งใหม่เฉพาะสำหรับแบรนด์เรา
บางครั้งรูปแบบแพคเกจจิ้งสำเร็จรูปหรือแบบที่ใช้อยู่ในท้องตลาด อาจเกิดปัญหาหรือไม่สะดวกตอนผู้บริโภคใช้งานจริง จึงต้องสร้างขึ้นใหม่โดยเฉพาะ หรืออยากมีรูปแบบแพคเกจจิ้งใหม่ที่ไม่ซ้ำกับใครก็เป็นไปได้
ในกรณีนี้สามารถหาไอเดียรูปแบบแพคเกจจิ้งได้ในเว็บไซต์ต่างๆ เช่น www.pinterest.com, Google เป็นต้น แล้วนำไปคุยกับโรงงานผลิตสินค้าหรือให้ไอเดียแก่ผู้ออกแบบ เพื่อสร้างเป็นกล่องแพคเกจจิ้งในฝันให้กับแบรนด์ของคุณได้
สไตล์ที่ใช่: สไตล์ในการออกแบบมีค่อนข้างหลากหลาย สามารถหาไอเดียสไตล์ที่ชอบ หรือให้ทางผู้ออกแบบนำเสนอสไตล์ที่เหมาะกับสินค้าได้
5. งบประมาณ
งบประมาณการผลิตและต้นทุนของแพคเกจจิ้งเป็นข้อสำคัญที่ต้องคำนึงถึงก่อนเริ่มลงมือออกแบบ ทั้งนี้ต้นทุนแบ่งออกได้เป็น 2 กรณี คือ
– ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นเพื่อการออกแบบ ครอบคลุมถึง ค่าจ้างออกแบบ ค่าแม่พิมพ์ ซึ่งค่าใช้จ่ายในหมวดนี้ มักจ่ายกันเพียงครั้งเดียวเพื่อการใช้ที่ยาวนาน
– ต้นทุนต่อชิ้น คือ ค่าผลิต ซึ่งรวมถึงค่าวัสดุและค่าแรงงานที่ใช้ต่อกล่องหนึ่งชิ้น
เมื่อข้อมูลพร้อมแล้วคุณก็สามารถติดต่อหาผู้ออกแบบแพคเกจจิ้ง เพื่อเริ่มออกแบบได้ แต่บางครั้งเมื่อมีข้อมูลบางส่วนก็สามารถปรึกษากับผู้ออกแบบให้เริ่มดำเนินการบางอย่างได้ ซึ่งผู้ออกแบบที่มีประสบการณ์ จะแนะนำผู้ประกอบการได้ว่า ต้องการข้อมูลส่วนไหนก่อนหลัง มาใช้ได้ก่อน ซึ่งจะทำให้ประหยัดเวลาในการรอทีละขั้นตอน สินค้าก็จะออกสู่ตลาดได้เร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นการเลือกใช้ผู้ออกแบบที่ดี มีประสบการณ์ ก็เป็นตัวช่วยที่สำคัญให้กับผู้ประกอบการได้ดีทีเดียว
การออกแบบแพคเกจจิ้งที่ดี ไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป การให้ความสำคัญกับงานดีไซน์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจหรือการทำสินค้าออกวางจำหน่าย เพราะงานดีไซน์ไม่ใช่แค่ทำให้สวย แต่สร้างประโยชน์มากมายให้สินค้า ที่จะเกิดเป็นยอดขายต่อไปได้
ดังนั้น เราเชื่อว่าประสบการณ์ของผู้ออกแบบ ความใส่ใจ ความเข้าใจในงานออกแบบนั้น จะช่วยแนะนำหรือมีแนวทางในการสร้างแพคเกจจิ้งที่ดีออกสู่ตลาดได้
สำหรับใครที่กำลังมองหาคนออกแบบหรือต้องการออกแบบแพคเกจจิ้ง หรือแม้แต่ทำการตลาดสำหรับแบรนด์ของตนเองหรือกำลังปรับปรุงธุรกิจ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงหรือยังขาดผู้ช่วย ไอดีลแกรมเราพร้อมไปด้วยทีมงานคุณภาพด้วยประสบการณ์มากกว่า 20 ปี พร้อมที่จะเป็นผู้ช่วยในการสร้างแบรนด์ของคุณให้ประสบความสำเร็จ
ออกแบบกับเราดียังไง
– เราสามารถช่วยคุณสร้างแพคเกจจิ้งที่โดดเด่น สะดุดตาได้
– เราช่วยสร้างแพคเกจจิ้งที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าได้
– เรามีทีมงานที่ช่วยแนะนำสำหรับผู้ที่มีสินค้าแต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง
– เราใช้ประสบการณ์ในการทำแพคเกจจิ้งกับแบรนด์ดังแบรนด์ใหญ่ มาเป็นแนวทางให้คุณได้
– มีประสบการณ์ในด้านการออกแบบมากกว่า 20 ปี ขั้นตอนการทำงานที่มีระบบระดับมืออาชีพ
– มีบริการที่หลากหลาย ช่วยต่อยอดในการส่งเสริมการขาย เช่น การออกแบบสื่อโฆษณาอื่นๆ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์
สามารถ เยี่ยมชมพอร์ต เพื่อดูผลงานเพิ่มเติม ได้ที่เมนูด้านล่าง หรือติดต่อสอบถาม, รับคำปรึกษาได้เลย ได้ทาง
email : hello@ideogram-design.com
โทร : 02-635-2991, 062-929-2826
Inbox facebook : m.me/IdeogrambkkDesign
แล้วอย่าลืมติดตามผลงาน เกร็ดความรู้ต่างๆ และบทความดีๆ ของเราผ่านเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียของเรากันนะคะ Click
ดูบทความอื่นๆ เพิ่มเติม คลิก https://ideogram-design.com/blog
Credit : https://www.bkkpaperbox.com, https://www.derma-innovation.com/content/15720/7steps-create-packaging
สรุป
เรื่องที่ต้องรู้ก่อนออกแบบแพคเกจจิ้ง ก็คือลักษณะของแพคเกจจิ้งที่ดี ต้องตอบโจทย์ แตกต่าง ดึงดูด และสร้างคุณค่า หลังจากนั้นมาเตรียมข้อมูลสำหรับการออกแบบกันไว้เลย และสามารถดูไอเดียการออกแบบแพคเกจจิ้งได้ที่บทความ ออกแบบแพคเกจจิ้ง แบบไหนดี ที่ใช่และเหมาะกับสินค้า